Sunday, June 12, 2016

คนสหราชอาณาจักร กำลังจะโหวตว่า จะอยู่กับ EU ต่อหรือไม่?

จากไลน์ ดร. Warichsiri 

ในวันที่ 23 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ เราจะได้เห็นการโหวตว่า อังกฤษจะคงสภานะสมาชิกในสหภาพยุโรปต่อไปหรือไม่นะ (UK referendum) หรือที่เราได้ยินกันอย่างแพร่หลายว่า Brexit (Britain+Exit)

1. สหภาพยุโรป (European Union) คืออะไร
- คือการร่วมมือกันทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองของกลุ่มประเทศยุโรปจำนวน 28 ประเทศ ซึ่งเริ่มตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยนอกจากจะเป็นเขตเสรีทางการค้าและบริการแล้ว สหภาพยุโรปยังมีเป้าหมายที่จะลดความเหลื่อมล้ำในภูมิภาคอีกด้วย สหภาพยุโรปมีเงินสกุลสำหรับภูมิภาคคือเงินยูโร ซึ่งใช้ใน 19 ประเทศสมาชิก

2. ทำไมถึงคนบางกลุ่มถึงคิดว่าประเทศอังกฤษควรออกจาก EU 
- ถึงแม้ว่าในปัจจุบันอังกฤษไม่ได้เข้าร่วมในข้อตกลงหลายๆอย่างของสหภาพ ไม่ว่าจะเป็น การใช้สกุลเงินยูโร หรือการเข้าร่วมกลุ่มเชงเก้น (Schengen Treaty) คนหลายกลุ่มยังมองว่าสหภาพยุโรปมีอำนาจเหนืออังกฤษมากเกินไป หากออกจากกลุ่ม EU อังกฤษจะมีอิสระมากขึ้นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะด้านการเมืองการปกครอง งบประมาณ หรือ เศรษฐกิจ โดยสามารถที่จะทำสัญญาการค้ากับประเทศอื่นอย่างไรก็ได้ รวมถึงหลายฝ่ายมองว่าค่าธรรมเนียมปัจจุบันที่ต้องจ่ายให้กับสหภาพยุโรปค่อนข้างสูง 

3. ใครโหวตได้บ้าง
- ประชาชนชาวอังกฤษ ไอริช และ Commonwealth ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งที่อาศัยอยู่ในอังกฤษ หรือต่างประเทศที่ได้ลงทะเบียนโหวตอิเลคทรอนิกไว้ภายใน 15 ปีที่ผ่านมา 

4. ถ้าผลโหวตสรุปว่าเสียงส่วนใหญ่เลือกที่จะออกจากสหภาพยุโรป จะเกิดอะไรขึ้น
-  อังกฤษจะต้องเจรจาว่าความสัมพันธ์ของอังกฤษและ EU จะเป็นอย่างไรต่อไป รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอื่นที่อยู่ภายใต้สหภาพยุโรปด้วย ยกตัวอย่างเช่นประเทศสวิสเซอร์แลนด์ กับนอร์เวย์ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ EU ที่แตกต่างออกไป แต่ก็ยังต้องยอมรับกับกฏบางอย่างของสหภาพอยู่ โดยการเจรจานี้อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าสองปี 

หากอังกฤษตัดสินใจที่จะออกจาก EU ประเทศก็สามารถที่จะลดรายจ่าย ในด้านค่าธรรมเนียมสมาชิกต่อปี และนำเงินจำนวนนั้นไปใช้ในการพัฒนาประเทศด้านอื่น รวมถึงการที่ไม่ต้องทำตามกฎเกณฑ์ข้อบังคับบางอย่างของ EU ทำให้ประเทศมีอำนาจในเรื่องของพรมแดนเต็มที่ ลดปัญหาเรื่องผู้อพยพ มีอำนาจในเรื่องนโยบายทางด้านภาษีที่มากขึ้น และมีเสรีทางการค้ากับประเทศนอกกลุ่ม EU มากขึ้น 

ในขณะเดียวกัน หลายๆฝ่ายมองว่าถ้าอังกฤษตัดสินใจที่ออกจากสหภาพยุโรป ผลเสียน่าจะมากกว่าผลดี ไม่ว่าผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจเนื่องจากประเทศในกลุ่ม EU เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของอังกฤษ (51% ของสินค้าและบริการทั้งหมด) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินปอนด์ที่อาจจะอ่อนค่าลงมาก การไหลออกของเงินลงทุนในประเทศ การจ้างงานในประเทศอาจจะลดลง คนอังกฤษอาจจะย้ายไปทำงานหรืออยู่ในประเทศอื่นใน EU ยากขึ้น อำนาจต่อรองบนเวทีโลกของอังกฤษอาจจะลดน้อยลง โดยเฉพาะในยุโรปด้วยกันเอง รวมถึงการเสียประโยชน์ทางด้านต่างๆที่เคยได้จากการเป็นสมาชิกของสหภาพ

5. ใครจะได้รับผลกระทบจาก Brexit บ้าง
- ที่แน่นอนคืออังกฤษและสหภาพยุโรปค่ะ ทั้งนี้ EU และประเทศสมาชิก อยากให้อังกฤษอยู่ต่อ หาก Brexit เกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือความมั่นใจในความเป็นสหภาพของยุโรปจะลดลง ประเทศสมาชิกที่เหลืออาจจะเริ่มหันมามองว่าประเทศตนควรจะอยู่ใน EU ต่อไปหรือไม่

หลายๆฝ่ายได้มองว่า Brexit อาจมีผลกระทบในแง่ลบต่ออเมริกาด้วย ในเรื่องของความมั่นใจในตลาดการเงิน เนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกมีการเชื่อมต่อกัน โดยเฉพาะตลาดการเงินหลักๆ อาจทำให้เป็นการยากขึ้นที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเวลาอันใกล้นี้ โดย Janet Yellen (Fed Chair) ก็ยังออกมาพูดเตือนว่า หากอังกฤษตัดสินใจที่จะออกจาก EU เศรษฐกิจของประเทศอาจจะต้องเผชิญกับผลกระทบในแง่ลบที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ("Significant economic repercussions") หรือ Barack Obama (US President) ก็พูดว่าเป็นเชิงว่าอังกฤษจะมีความสำคัญทางการค้าน้อยลงต่ออเมริกา โดยต้องไปต่อที่ท้ายแถว ("UK is going to be in the back of the queue")
 
นักลงทุนที่มี exposure ในยุโรปไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม ก็อาจจะต้องเผชิญกับความผันผวนในช่วงนี้ โดยเฉพาะ exposure กับประเทศอังกฤษที่อาจจะได้รับผลกระทบมากที่สุด 

6. ตอนนี้ตลาดคาดการณ์เป็นอย่างไรบ้าง
- อ้างอิงจาก Financial Times การคาดการณ์ผลโหวตปัจจุบันค่อนข้างใกล้กันมากนะคะ คือ 43% ตัดสินใจโหวตออก 45% อยากให้อังกฤษอยู่ต่อ และ 12% ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งทำให้การคาดการณ์ยากมากค่ะ รวมถึงความไม่แน่นอนของข้อตกลงของอังกฤษกับ EU ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หลังอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพ แต่ตลาดค่อนข้างที่จะมองว่า ในระยะสั้นการออกจากสหภาพจะเป็นผลเสียต่อประเทศอังกฤษมากกว่า เพราะฉะนั้นหากผลโหวตสรุปว่าออก เราจะได้เห็นความผันผวนของค่าเงินปอนด์ และตลาดหุ้นอังกฤษแน่ๆ

อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ http://www.bbc.com/news/uk-politics-32810887

No comments:

Post a Comment