Tuesday, June 14, 2016

เตรียมรับแรงกระแทกลูกแรกของ “supernova” วิกฤติทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ โดย ทวีสุข ธรรมศักดิ์

เตรียมรับแรงกระแทกลูกแรกของ "supernova"

วิกฤติทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ



Bill Gross ได้แสดงความคิดเห็นว่า ตราสารหนี้ปริมาณ $10 TN

กำลังจะกลายเป็น "supernova"

ที่พร้อมจะระเบิดที่สร้างความเสียหายอย่างย่อยยับ ในวันใดวันหนึ่ง

ซึ่ง Bill Gross กล่าวอีกว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรต่ำที่สุดในรอบ 500 ปี

George Soros ได้ลงทุนในสภาวะ Bearish ในตลาดหุ้นนิวยอร์คหรือ ใน S&P500

(แต่ข่าวออกกันแต่เรื่องซื้อทอง..เข้าใจใช่มั๊ยครับว่า..ฟังข่าวในทีวีหรือวิทยุแล้วรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญ

แทนที่จะช่วยกันเตือน..ยังมั่วแต่ให้ผู้คน..งัด..เงินมาซื้อหุ้นกันอยู่นั้นแหละ)

Soros กล่าวว่า ความฉาวโฉ่กำลังจะถูกเปิดออกมันเป็นสิ่งที่บ้าบอที่สุดในประวัติศาสตร์



ซึ่งความเสี่ยงได้กระจายไปในธนาคารกลาง (central

bank)ทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นักการธนาคารกลางทั่วโลกรู้ปัญหานี้ดี

(คือ..รู้จริงๆหรอ)

ธนาคารกลางทั่วโลก..ได้สูญเสียการควบคุมทางเศรษฐกิจไปเรียบร้อยแล้ว(คือ..ประชุมอีกกี่ที่ก็ไร้สาระแล้ว)



"A small change in central bank interest rates risks triggering an

abrupt reversal in global markets, in echoes of the last financial

crisis, the head of the German Bundesbank has warned.



Jens Weidmannn. ได้กล่าวว่า นักลงทุนและผู้จัดการการลงทุนได้กลายเป็น

โรคประสาทกันมากขึ้นจากการติดอยู่กับอัตราดอกเบี้ยติดลบและการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ

ค่าความเสี่ยงทางการลงทุน ( hike in risk premiums)



ผมจะสรุปภาพอีกครั้งนะครับ



เราอยู่บน...ฟองสบู่..ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติพร้อมกันถึง

4 ลูก...ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน



1.ฟองสบู่ในตลาดตราสารหนี้..ทั้งรัฐบาล..บริษัทเอกชน..และภาคครัวเรือน..

มีปริมาณรวมกันถึง 200 ล้านล้านเหรียญ

ขณะที่ GDPโลกมีปริมาณ 75 ล้านล้านเหรียญ

และเงินกู้ทั้งหมดนี้...ไม่สามารถ..ขับดันการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อีกแล้ว



2.ฟองสบู่ในตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค S&P 500 มี P/E ratio ที่ 24 เท่า ซึ่ง สูงกว่า ปี 2007

เป็น Super Bubble ไปเรียบร้อยแลัว

และ...ไม่มีเงินที่พิมพ์จากอากาศ(คงต้องพิมพ์จากอวกาศแล้วแหละครับ)

และ...EPS ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

และ..GDP อเมริกาและของโลกก็ถูกประมาณการณ์ลดลงอย่างต่อเนื่อง



ตลาดหุ้นญี่ปุ่น..มี BOJ ขนเงินเข้าไปซื้อหุ้นใน ETF

ในปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อพยุงตลาด

ตลาดหุ้นจีน..มีปริมาณหนี้เสีย..และ..ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่มีโอกาสจะรุนแรง...รัฐบาลกลางอัดเงินเข้าระบบการเงินเกือบ

1 ล้านล้านหยวน .ในเดือนที่ผ่านมา

และยังถูกกดดันจากการโจมตีค่าเงิน...อย่างต่อเนื่อง

และยังขนเงินจากกองทุนต่างๆไปซื้อหุ้นเพื่อพยุงตลาดอย่างต่อเนื่อง

อาเซียน..เมื่อ..จีนถดถอย..การค้าอาเซียนผูกกับจีนในปริมาณมหาศาล...และกำลังจะถดถอย

ตลาดหุ้นยุโรป

- ปัญหา Deutsche Bank ที่ถือ ตราสารอนุพันธ์ เท่ากับ

GDPของโลก..กำลังจะมีชะตากรรมเหมือน lehman brothers

(ขณะที่เขียนอยู่ราคาหุ้นได้ทำ new low ไปแล้ว)

- ปัญหาของกรีซ...ที่ได้พี่ใหญ่คนใหม่คือ..รัสเซีย..กำลังจะถอนตัวจากยูโรและจะ..ชักดาบ..เจ้าหนี้อย่างเยอรมัน

- อิตาลี ...หนี้เสียหรือ NPL ในภาคธนาคารเพื่มขึ้นไม่หยุด

- สเปน ที่เกิดปัญหา toxic real estate assets

จนธนาคารหลักต้องการเงินเพิ่มทุน..ด่วน..ที่ปริมาณ 2.5 พันล้านยูโร

และต้องการออกจากยูโรเช่นกัน

- Brexit โหมเพื่อกลบข่าวอื่น

(ส่วนตัว..มองว่า..ยูโรโซนแตกไปแล้ว...แค่รอเวลาเดินมาถึงเท่านั้น)

และผู้อพยบที่ส่งออกโดยตุรกี..กำลังจะสร้างปัญหาไม่หยุด



3 ฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์

ทั้งใน

- จีน

- อาเซียน

- อินเดีย

- อังกฤษ

- อเมริกา

- แคนาดา



ที่กำลังจะแพลงฤทธิ์กลับไปเป็นหนี้เสียหรือ NLP ในธนาคารและตราสาร MBS.

และ CDO ที่ยังขายกันไม่แพ้ปี 2004 - 2007

ไปดูที่สเปน...กำลังระเบิดไปที่ธนาคารแล้ว



4 ฟองสบู่ในตราสารอนุพันธ์...หรือ..การสร้างมูลค่าจากกระดาษ



GDP ของโลก 75 ล้านล้านเหรียญ

ตราสารอนุพันธ์มี Market Cap 850 ล้านล้านเหรียญ



เมื่อเกิดปัญหาในระบบ..จึงต้องมี Investment Bank

ที่จะต้องล้มละลาย...และคราวนี้หวยน่าจะออกที่ Deutsche Bank



เมื่อเกิดขึ้นจะเกิดภาวะ Credit Crunch ไปทั่วโลก

ซึ่งขณะนี้ ธนาคารกลางทั่วโลกได้สูญเสียความสามารถในการควบคุมหมดแล้ว..อย่างสิ้นเชิง

เป็นจุดจบของ..ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ของเคนท์

ที่

- ให้เอาเงินในอนาคตมาใช้..แล้วค่อยๆจ่ายคืน..และทำให้หนี้ลดลงด้วยการสร้างเงินเฟ้อขึ้นมา

- ให้รัฐบาลใช้นโยบายการเงินเพื่อขับดันเศรษฐกิจ



เมื่อทั้ง 2 อย่างมาไกลเกินกว่า..ที่จะขับดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ...การบริโภค..และเงินเฟ้อได้อีกต่อไปแล้ว



ข้อดีของระบบทุนนิยมที่มีผู้ชักใยคือ...เมื่อเศรษฐกิจดีผู้คนก็จะกู้เงินและมาซื้อของมากมาย...ราคาหุ้น..ค่าธรรมเนียม..และปริมาณดอกเบี้ยจากเงินกู้ก็ขยายตัวอย่างมหาศาล

เมื่อมาถึงจุดสุดท้าย..การพังทลายของระบบเกิดขึ้น..ผู้คนทั้งหลายก็ต้้องจ่ายราคาด้วยเงินภาษีเพื่อไปรักษาระบบ



คุณป้าเยลเลน..จึงบอกว่า..ระบบทุนนิยมคือระบบที่ดีที่สุด

เพราะตามหลักของยิวคือ "

เอาธุรกิจมาให้เก็งกำไรเพื่อวันหนึ่งจะหลุดมาอยู่ในมือเรา

พวกทาสทั้งหลายจะไม่ทันสังเกตุ..เพราะสนใจแต่เรื่องที่เราอยากให้รู้เพื่อการเก็งกำไรเท่านั้น"



เหตุการในอเมริกาใต้...คือการพังทลายแบบซ้ำชาก...ที่ผู้คนทั้ง..โง่..เห็นแก่ตัว..และ..มักง่ายในการใช้ชีวิต

(ไม่เคยที่จะเรียนรู้)

เศรษฐกิจอเมริกาใต้...ไม่สามารถจะหยุดหายนะได้อีกต่อไปแล้วและกำลังจะลามไปทั้งทวีป

และกำลังจะเคลื่อนไป แอฟริกาใต้..เพื่อสะกัดการเติบโตของกลุ่ม Brics....



ผมอนุญาติให้แชร์ได้..ถ้าท่านอ่านแล้วเห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อคนอื่นเพื่อเรียนรู้และเตรียมตัวรับมือ



ขณะนี้ คลื่นลูกแรกของ "supernova" เดินทางมาถึงแล้ว

ส่วนคลื่นแม่ที่ใหญ่กว่าจะมาในกลางปีหน้า



เพราะ

This is the crisis.

The greatest crisis in the history of mankind.



ทวีสุข ธรรมศักดิ์

No comments:

Post a Comment